การทำกิจกรรมเอาท์ดอร์อาจต้องพบเจอสภาวะแวดล้อมต่างๆ เช่นมีฝนหรือหิมะตก การรักษาอุณหภูมิร่างกายให้ปกติเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ไม่เจ็บไข้ไปเสียก่อนเสื้อผ้าที่กันลมกันน้ำช่วยได้เป็นอย่างมาก ถ้ากิจกรรมทั่วไปที่ใช้ระยะเวลาไม่นานเราสามารถใช้เสื้อกันฝนที่ทำจากพลาสติกธรรมดาที่มีราคาถูก แต่สำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ต้องใช้เวลาในกิจกรรมกลางแจ้งนานๆ เสื้อกันฝนพลาสติกธรรมดาอาจยังไม่เพียงพอ เนื่องจากเสื้อกันฝนพลาสติกทั่วไปกันน้ำได้ แต่ก็กันเหงื่อหรือไอความร้อนที่ออกจากตัวเราด้วยเช่นกัน เมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกาย เหงื่อที่ระบายออกไม่ได้นอกจากจะอับและทำให้รู้สึกอึดอัดแล้ว ไอความร้อนจะกลั่นเป็นน้ำมาสบทบอีก ทำให้ตัวเปียกและเสี่ยงต่อภาวะอุณภูมิร่างกายลดต่ำ (Hypothermia)โดยเฉพาะขณะพักหรือหยุดกิจกรรม ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่ผลิตเสื้อผ้าที่กันน้ำและระบายอากาศได้ด้วย ส่วนใหญ่จะใช้สารเคลือบลงบนผ้า สำหรับที่เป็นเส้นใยกันน้ำจริงๆมีไม่กี่เทคโนโลยีหนึ่งในนั้นที่มีชื่อเสียงและมีมานานกว่าใครคือ Gore-Tex
Gore-Tex เป็นเทคโนโลยีที่นำเส้นใยพลาสติกที่บางและมีช่องขนาดเล็กพอที่จะกันโมเลกุลของน้ำแต่ยังให้อากาศไหลผ่านได้ โดยจะนำมาซ้อนกับผ้าซึ่งเป็นไนลอนหรือโพลีเอสเตอร์ชั้นนอกเพื่อความสวยงามและทนทาน อาจมีชั้นในเพื่อให้ผิวสัมผัสนุ่มขึ้น Gore-Tex รุ่นทั่วไปที่ไม่ใช่ Soft Shell จะมีอัตราการกันน้ำที่ 28,000 mm Gore-Tex มีหลายรุ่น อัตราการกันน้ำ(waterproof)แต่ละรุ่นเท่ากัน ต่างกันที่อัตราการระบายอากาศ (Breathability) ความทนทานและคุณสมบัติอื่นๆ แน่นอนว่า Breathability สูง ยิ่งให้ความรู้สึกสบาย แต่ถ้าไม่ได้มีการเคลื่อนไหวร่างกายมากนักอาจไม่มีความจำเป็นต้องใช้ breathability ที่สูงก็ได้ Gore-Tex ไม่ได้กันหนาว กันหนาวในที่นี้คือเป็นตัวกักเก็บความร้อนที่ออกจากร่างกาย (gore-tex ระบายออก) ซึ่งรุ่นที่ Breathability สูง เช่น Active shell,หรือ Pro shell อาจจะรู้สึกว่าว่าอุ่นน้อยกว่ารุ่นธรรมดา ในที่อากาศหนาวจำเป็นต้องมีชั้น Insulation ซึ่งอาจจะเป็น ขนสัตว์ (wool), ฟลีส (fleece), ใยสังเคราะห์, หรือขนเป็ด สวมใส่ด้านในด้วย
DWR (Durable Water Repellent)
Gore-Tex มีความทนทานอยู่ได้เป็นสิบปี ส่วนที่เสื่อมก่อนจะเป็นสารเคลือบที่เรียกว่า DWR ( Durable Water Repellent ) ที่เคลือบผิวชั้นนอกอีกที ซึ่งเราจะเห็นน้ำกลิ้งเป็นหยดเมื่อโดนเนื้อผ้า สารนี้ถ้าเสื่อมจะทำให้ผ้าชั้นนอกอมน้ำ ถึงแม้น้ำจะไม่สามารถผ่านเส้นใยมาได้แต่ก็ทำให้ผ้ามีน้ำหนักมากขึ้นและแห้งช้า เราสามารถเคลือบ DWR เองได้ ผลิตภัณท์เคลือบDWRทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบสเปรย์ ฉีดเคลือบก่อนนำไปอบในเครื่องอบผ้า
แบรนเสื้อผ้า outdoor ที่นำ Gore-Tex มาใช้
อเมริกาเหนือ
ยุโรป
*บางยี่ห้อมีเทคโนโลยีของตัวเองใช้กับรุ่นที่ราคาไม่สูงมาก เช่น Precip ของ Marmot, Hyvent ของ TNF
คู่แข่งสำคัญของ Gore-Tex คือ Event ซึ่งมีชื่อมากในเรื่องของ breathability ที่สูง
แบรนด์เสื้อผ้า outdoor ที่ใช้เทคโนโลยี Event
DWR (Durable Water Repellent)
Gore-Tex มีความทนทานอยู่ได้เป็นสิบปี ส่วนที่เสื่อมก่อนจะเป็นสารเคลือบที่เรียกว่า DWR ( Durable Water Repellent ) ที่เคลือบผิวชั้นนอกอีกที ซึ่งเราจะเห็นน้ำกลิ้งเป็นหยดเมื่อโดนเนื้อผ้า สารนี้ถ้าเสื่อมจะทำให้ผ้าชั้นนอกอมน้ำ ถึงแม้น้ำจะไม่สามารถผ่านเส้นใยมาได้แต่ก็ทำให้ผ้ามีน้ำหนักมากขึ้นและแห้งช้า เราสามารถเคลือบ DWR เองได้ ผลิตภัณท์เคลือบDWRทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบสเปรย์ ฉีดเคลือบก่อนนำไปอบในเครื่องอบผ้า
แบรนเสื้อผ้า outdoor ที่นำ Gore-Tex มาใช้
อเมริกาเหนือ
- Arc'teryx
- Patagonia
- Marmot
- The North Face
- Outdoor Research
ยุโรป
- Norrona
- Haglofs
- Mammut
- Millet
- Mountain Equipment
*บางยี่ห้อมีเทคโนโลยีของตัวเองใช้กับรุ่นที่ราคาไม่สูงมาก เช่น Precip ของ Marmot, Hyvent ของ TNF
คู่แข่งสำคัญของ Gore-Tex คือ Event ซึ่งมีชื่อมากในเรื่องของ breathability ที่สูง
แบรนด์เสื้อผ้า outdoor ที่ใช้เทคโนโลยี Event
- Rab
- Montane
- Westcomb
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น