วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

ว่าด้วยเรื่องเสื้อขนเป็ด

ผมศึกษาอยู่นานว่าจะมีวัสดุอะไรที่เหมาะสมเป็นเสื้อกันหนาวในระหว่างเดิน Trekking ไกลๆบนภูเขาสูง ปัจจัยที่ต้องพิจารณาคือเรื่องขนาด ต่อมาคือน้ำหนัก เพราะมีความจำเป็นต้องพกติดเป้แบกเอง เสื้อกันหนาวที่กันหนาวระดับต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส ที่ราคาไม่แพงส่วนมากจะมีขนาดใหญ่ ต่อให้เป็นขนเป็ดที่ว่าเป็นวัสดุที่เบาก็ตาม เลยมีความจำเป็นต้องปรับราคาพิจารณาขึ้นพร้อมกับการค้นข้อมูลที่ต้องมากควบคู่ไปด้วยเพื่อให้คุ้มเงินที่จ่าย พูดซะยาว ผมก็ได้มีตัวเลือกวัสดุไฮโซอยู่สามแบบคือ
 1.  Fleece Polartec
 2. ใยสังเคราะห์ Synthetic เช่น Primaloft
 3. ขนเป็ดหรือห่าน แบบเกรดดีๆ (มีค่า fill power 650+)
 
MHW BLACK 
Mountain Hardwear Monkeyman เสื้อ Fleece Polartec
แบบที่หนึ่ง Fleece Polartec กันหนาวได้น้อยที่สุด แต่น้ำหนักเบาและดูแลง่าย ใส่ได้ตลอดเวลา ราคาแพงน้อย
Patagonia Nano Puff เสื้อบุใยสังเคราะห์ Primaloft
แบบที่สอง ใยสังเคราะห์ แบบนี้กันหนาวดีกว่าแบบแรกแต่ราคาก็ขยับขึ้นมา น้ำหนักก็ไม่หนักไม่เบา ข้อดีคือดูแลง่ายและไม่ต้องกังวลเรื่องความชื้นเพราะมันยังคงคุณสมบัติในการกักความร้อนไว้ได้แม้ขณะที่เปียก ราคาแพง

http://www.montbell.us/products/prod_img/large/k_2301361_tera.jpg 
MONTBELL ALPINE LIGHT DOWN PARKA เสืื้อขนเป็ด 800 fill power
แบบสุดท้าย ขนเป็ด เทียบน้ำหนักต่อคุณสมบัติในการกักเก็บความร้อนแล้ว ขนเป็ดดีที่สุดในสามแบบ และสามารถพับเก็บได้ขนาดเล็กเหลือเชื่อ อายุการใช้งานยาวนานที่สุด แต่ข้อจำกัดคือ ห้ามเปียกน้ำเพราะจะสูญเสียคุณสมบัติทันที ทำให้ต้องดูแลเป็นพิเศษ และมีราคาสูงสุดในสามแบบ คือแพงมาก

หลังจากได้ข้อสรุปในคุณสมบัติของแต่ละแบบ ผมเลือก ขนเป็ด เพราะ มันอุ่นที่สุด และราคาเมื่อเทียบกับวัสดุอื่นแล้วผมว่าขนเป็ดคุ้มค่ากว่า ขนเป็ดเกรดพรีเมี่ยม (fill power 800) เทียบกับ ใยสังเคราะห์ของยี่ห้อเดียวกัน ขนเป็ดแพงกว่าประมาณ 20-30$ ผมมองว่าไม่มากเทียบกับอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าของขนเป็ด (อันนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคนด้วยครับ) เพราะผมคงไม่ใส่ขนเป็ดเดินขึ้นเขาทั้งวันแน่เพราะมันจะร้อนเกิน เอามาใช้แค่ตอนกลางคืนหรือเมื่อหยุดพัก เพราะที่อุณหภูมิประมาณ 10 องศาตอนกลางวัน ถ้าร่างกายเคลื่อนไหวอยู่ตลอดมีเสื้อฟลีสธรรมดาสักตัวผมว่าก็พอแล้ว หรือถ้าจำเป็นต้องใส่กลางแจ้งผมจะมีแจ็คเก็ตกันน้ำตัวนอกอีกชั้นนึง

Fill Power ค่าบ่งบอกคุณภาพขนเป็ด


จะเห็นที่ผมเขียนเป็นตัวเลข 650, 800 เรียกว่าค่า Fill Power เป็นตัวบ่งบอกคุณภาพของขนเป็ด ค่ายิ่งสูงแสดงว่าขนเป็ดมีคุณภาพดี หมายความว่าที่น้ำหนักขนเป็ดเท่ากัน ขนเป็ดที่มีค่า Fill power สูงจะกักเก็บอากาศได้มากกว่า เขาจะวัดโดยใช้ขนเป็ดหนักขนาด 1 ounce ใส่ลงไปในภาชนะทรงกระบอก ใช้ลูกสูบอัดแล้วปล่อยดูว่าขนเป็ดมันจะฟูขึ้นมากินพื้นที่ทรงกระบอกเท่าไร ค่าจะอยู่ระหว่าง 400-900 หน่วยเป็น cubic inches เช่น 650 หมายถึงขนเป็ดฟูขึ้นมากินพื้นที่ 650 cubic inches เป็นต้น  ค่าขนเป็ดที่คุณภาพระดับปีนเขาจะอยู่ที่มากกว่า 650 ขึ้นไป

 
วิดีโอตัวอย่างวิธีวัด Fill Power การวัดจริงจะต้องควบคุมอุณหภูมิความชื้น ฯลฯ หลายปัจจัย

เสื้อขนเป็ดที่มี Fill Power สูงจะมีน้ำหนักเบาและพับเก็บได้เล็ก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะอุ่นกว่าเสื้อขนเป็ดที่มี Fill Power ต่ำ การที่จะทำให้เสื้อขนเป็ดที่มี Fill Power ต่ำ อุ่นเท่ากับขนเป็ดที่มี Fill Power สูง จะต้องใช้ปริมาณขนเป็ดที่มากกว่า เรียกว่าต้องใช้ Fill Weight ที่มากขึ้น (อย่าสับสนกับ Fill Power) ดังนั้นไม่จำเป็นว่าเสื้อขนเป็ดที่ Fill Power ต่ำกว่า จะอุ่นน้อยกว่า เพราะถ้ามี Fill Weight ที่มากพอ ก็อุ่นได้เหมือนกันแต่ต้องแลกกับน้ำหนักและขนาดที่ใหญ่กว่านั่นเอง การจะพิจารณาเสื้อขนเป็ดแบบไหนอุ่นกว่าเราต้องดูสองค่าควบคู่กันด้วย
Marmot ZEUS 800 fill power แบบของผม จัดอีเบย์มา 85$ รวมส่ง ไม่เลวทีเดียว ^0^

การซักเสื้อขนเป็ด

การทำความสะอาด ต้องถามผู้ผลิตหรือ ดูที่ Care Tag ที่ติดบนเสื้อจะดีที่สุด อธิบายอย่างนี้ ปกติแล้วเสื้อขนเป็ดไม่ถูกกับน้ำ การซักมือหรือเครื่องซักผ้าจะทำให้ขนเป็ดจับตัวเป็นก้อนเสียหาย เราจึงจะต้องซักแห้งเท่านั้น  แต่ๆๆ มีขนเป็ดที่ถูกผ่านกรรมวิธีพิเศษ เพื่อทำให้โดนน้ำได้ไม่เสียหาย โดยเฉพาะขนเป็ดของแบรนด์ที่ทำเสื้อผ้า Outdoor ส่วนใหญ่ ซึ่งเขาจะให้ซักกับเครื่องซักผ้าปกติเท่านั้นโดยห้ามซักแห้ง

ยี่ห้อเสื้อและผลิตภัณท์ขนเป็ด Outdoor ที่มีชื่อเสียง
  • Marmot
  • Montbell
  • Patagonia
  • Rab
  • Western Mountaineering
  • Montane
  • Mountain Equipment


Nutt
www.thaihiker.com

วันอาทิตย์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2556

Gore-Tex แบบคร่าวๆ

   การทำกิจกรรมเอาท์ดอร์อาจต้องพบเจอสภาวะแวดล้อมต่างๆ เช่นมีฝนหรือหิมะตก การรักษาอุณหภูมิร่างกายให้ปกติเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ไม่เจ็บไข้ไปเสียก่อนเสื้อผ้าที่กันลมกันน้ำช่วยได้เป็นอย่างมาก ถ้ากิจกรรมทั่วไปที่ใช้ระยะเวลาไม่นานเราสามารถใช้เสื้อกันฝนที่ทำจากพลาสติกธรรมดาที่มีราคาถูก แต่สำหรับนักกีฬาหรือผู้ที่ต้องใช้เวลาในกิจกรรมกลางแจ้งนานๆ เสื้อกันฝนพลาสติกธรรมดาอาจยังไม่เพียงพอ เนื่องจากเสื้อกันฝนพลาสติกทั่วไปกันน้ำได้ แต่ก็กันเหงื่อหรือไอความร้อนที่ออกจากตัวเราด้วยเช่นกัน   เมื่อมีการเคลื่อนไหวร่างกาย เหงื่อที่ระบายออกไม่ได้นอกจากจะอับและทำให้รู้สึกอึดอัดแล้ว ไอความร้อนจะกลั่นเป็นน้ำมาสบทบอีก ทำให้ตัวเปียกและเสี่ยงต่อภาวะอุณภูมิร่างกายลดต่ำ (Hypothermia)โดยเฉพาะขณะพักหรือหยุดกิจกรรม ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่ผลิตเสื้อผ้าที่กันน้ำและระบายอากาศได้ด้วย ส่วนใหญ่จะใช้สารเคลือบลงบนผ้า สำหรับที่เป็นเส้นใยกันน้ำจริงๆมีไม่กี่เทคโนโลยีหนึ่งในนั้นที่มีชื่อเสียงและมีมานานกว่าใครคือ Gore-Tex
http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/9/94/Goretex_schema-en.png
    Gore-Tex เป็นเทคโนโลยีที่นำเส้นใยพลาสติกที่บางและมีช่องขนาดเล็กพอที่จะกันโมเลกุลของน้ำแต่ยังให้อากาศไหลผ่านได้ โดยจะนำมาซ้อนกับผ้าซึ่งเป็นไนลอนหรือโพลีเอสเตอร์ชั้นนอกเพื่อความสวยงามและทนทาน อาจมีชั้นในเพื่อให้ผิวสัมผัสนุ่มขึ้น Gore-Tex รุ่นทั่วไปที่ไม่ใช่ Soft Shell จะมีอัตราการกันน้ำที่ 28,000 mm Gore-Tex มีหลายรุ่น อัตราการกันน้ำ(waterproof)แต่ละรุ่นเท่ากัน ต่างกันที่อัตราการระบายอากาศ (Breathability) ความทนทานและคุณสมบัติอื่นๆ แน่นอนว่า Breathability สูง ยิ่งให้ความรู้สึกสบาย แต่ถ้าไม่ได้มีการเคลื่อนไหวร่างกายมากนักอาจไม่มีความจำเป็นต้องใช้ breathability ที่สูงก็ได้ Gore-Tex ไม่ได้กันหนาว กันหนาวในที่นี้คือเป็นตัวกักเก็บความร้อนที่ออกจากร่างกาย (gore-tex ระบายออก) ซึ่งรุ่นที่ Breathability สูง เช่น Active shell,หรือ Pro shell อาจจะรู้สึกว่าว่าอุ่นน้อยกว่ารุ่นธรรมดา  นที่อากาศหนาวจำเป็นต้องมีชั้น Insulation ซึ่งอาจจะเป็น ขนสัตว์ (wool), ฟลีส (fleece), ใยสังเคราะห์, หรือขนเป็ด สวมใส่ด้านในด้วย

DWR (Durable Water Repellent)
   Gore-Tex มีความทนทานอยู่ได้เป็นสิบปี ส่วนที่เสื่อมก่อนจะเป็นสารเคลือบที่เรียกว่า DWR ( Durable Water Repellent ) ที่เคลือบผิวชั้นนอกอีกที ซึ่งเราจะเห็นน้ำกลิ้งเป็นหยดเมื่อโดนเนื้อผ้า สารนี้ถ้าเสื่อมจะทำให้ผ้าชั้นนอกอมน้ำ ถึงแม้น้ำจะไม่สามารถผ่านเส้นใยมาได้แต่ก็ทำให้ผ้ามีน้ำหนักมากขึ้นและแห้งช้า เราสามารถเคลือบ DWR เองได้  ผลิตภัณท์เคลือบDWRทั่วไปจะอยู่ในรูปแบบสเปรย์ ฉีดเคลือบก่อนนำไปอบในเครื่องอบผ้า

แบรนเสื้อผ้า outdoor ที่นำ Gore-Tex มาใช้
อเมริกาเหนือ
  • Arc'teryx
  • Patagonia
  • Marmot
  • The North Face
  • Outdoor Research

ยุโรป
  • Norrona
  • Haglofs
  • Mammut
  • Millet
  • Mountain Equipment

*บางยี่ห้อมีเทคโนโลยีของตัวเองใช้กับรุ่นที่ราคาไม่สูงมาก เช่น Precip ของ Marmot, Hyvent ของ TNF

คู่แข่งสำคัญของ Gore-Tex คือ Event ซึ่งมีชื่อมากในเรื่องของ breathability ที่สูง
แบรนด์เสื้อผ้า outdoor ที่ใช้เทคโนโลยี Event
  • Rab
  • Montane
  • Westcomb